ลักษณะการประกอบธุรกิจ

มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยการส่งมอบพลังงาน สะอาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้พลังของการคิดบวกภายใต้แนวคิด Positive Progress ส่งมอบบริการแบบครบวงจรตั้แต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ บนพื้นฐานของคุณภาพความปลอดภัยสูงสุด โดยมีเป้าหมาย เป็นผู้นำด้านพลังงานครบวงจร มุ่งมั่นต่อความท้าทายและ แสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง เพื่อการพัฒนาและขยายตัว ทางธุรกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างยั่งยืน

LPG พลังงานบริสุทธิ์

พลังงานที่มีการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

LPG (Liquefied Petroleum Gas) เป็นก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมัน และได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติ ซึ่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวจะให้ค่าความร้อนที่สูงเพราะประกอบไปด้วย โพรเพน (Propane) และบิวเทน (Butane) มีสูตรทางเคมี C3H8 +C4H10 ซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นเชื้อเพลิงติดไฟง่าย และเป็นพลังงานที่มีการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ก๊าซ LPG ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายให้เป็นพลังงานทางเลือกที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง

LPG เป็นพลังงานที่ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Oil) และแยกก๊าซธรรมชาติ
LPG ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น จึงมีการเติมสารเอทิลเมอแคบแทน (ETHYL MERCAPTAN) เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้กรณีเกิดก๊าซรั่ว
LPG เป็นพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
LPG เป็นพลังงานทดแทนที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้อย่างกว้างขวาง
LPG มีสถานะเป็นได้ทั้งของเหลวและก๊าซ มีน้ำหนักเบากว่า น้ำแต่หนักกว่าอากาศ
LPG สามารถแปรสภาพจากของเหลวโดยการขยายตัวเป็นก๊าซถึง 250 เท่า

LPG (Liquefied Petroleum Gas) เป็นก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมันและได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติ มีสถานะเป็นได้ทั้งของเหลวและก๊าซ สามารถแปรสภาพจากของเหลว โดยขยายตัวเป็นก๊าซได้ถึง 250 เท่า น้ำหนักเบากว่าน้ำ แต่หนักกว่าอากาศ มีคุณสมบัติให้ค่าความร้อนสูง เพราะมีส่วนประกอบของโพรเพน (Propane) และบิวเทน (Butane) ซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟได้ง่าย ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นพลังงานที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นพลังที่สะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย

LPG พลังงานสีเขียว ดีต่อโลก ดีต่อเรา

แหล่งที่มาของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)

1. ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งจะได้ก๊าซโปรเปนและบิวเทนประมาณ 1-2% แต่ก่อนที่จะนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น ต้องแยกน้ำและเกลือแร่ที่ปนอยู่ออกเสียก่อน หลักจากนั้นนำน้ำมันดิบมาให้ความร้อนจนมีอุณหภูมิประมาณ 340-400 OC จากนั้นจะถูกส่งเข้าสู่หอกลั่น ซึ่งภายในประกอบด้วยถาด (tray) เป็นชั้นๆ หลายสิบชั้น ไอร้อนที่ลอยขึ้นไป เมื่อเย็นตัวลงจะกลั่นตัวเป็น ของเหลวบนถาดตามชั้นต่างๆ และจะอยู่ชั้นใดขึ้นอยู่กับช่วงจุดเดือนต่ำจะลอยขึ้นสู่เบื้องบนของหอกลั่นคือไฮโดรคาร์บอนที่มีสถานะเป็นก๊าซ (LPG รวมอยู่ในส่วนนี้ด้วย) ส่วนไฮโดรคาร์บอนที่มีจุดเดือนปานกลางและสูงก็จะแยกตัวออกมาทางตอนกลางและตอนล่างของหอกลั่น ซึ่งได้แก่แนพทา (naphtha) น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล และน้ำมันเตา ตามลำดับ

ไฮโดรคาร์บอนที่มีสถานะเป็นก๊าซที่ออกจากด้านบนของหอกลั่นรวมเรียกว่า “ก๊าซปิโตรเลียม” ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมของ ก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 อะตอม ถึง 4 อะตอมและมีก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไนโตรเจน (N2) ไฮโดรเจน (H2) และอื่นๆ ปนอยู่ จำเป็นต้องกำจัดหรือแยกออกโดยนำก๊าซปิโตรเลียมผ่านเข้าหน่วยแยกก๊าซแอลพีจี (gas recovery unit) เพื่อแยกเอาโปรเปนและบิวแทน (หรือแอลพีจี) ออกมา จากนั้นแอลพีจีจะถูกส่งเข้าหน่วยฟอก ซึ่งใช้โซดาไฟ (caustic soda) เพื่อแยกเอากรด (acid gas) เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออก หลังจากนั้นแอลพีจีจะถูกส่งไปเก็บในถังเก็บและมีสภาพเป็นของเหลวภายใต้ความดัน

2. ได้จากกระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะมีก๊าซโปรเปนและบิวเทนในก๊าซธรรมชาติประมาณ 6-10% ก๊าซธรรมชาติ ที่นำขึ้นมาจะส่งเข้าสู่โรงแยกก๊าซ (gas separation plant) เพื่อทำการแยกเอาสารไฮโดรคาร์บอนที่มีอยู่ในก๊าซธรรมชาติ ออกเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ คือ มีเทน (methane) อีเทน (ethane) โปรเปน (propane) บิวเทน (butane) แอลพีจี (liquefied petroleum gas) และก๊าซโซลีนธรรมชาติ (natural gasoline , NGL)

กระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ เริ่มต้นด้วยการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และน้ำที่เจือปน อยู่ในก๊าซธรรมชาติออกก่อน โดยกระบวนการ Benfield ซึ่งใช้โปตัสเซียมคาร์บอเนต (K2CO3) เป็นตัวจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และกระบวนการดูดซับ (absorption process) โดยใช้สารจำพวก molecular sieve ซึ่งมีลักษณะเป็นรูพรุน ทำหน้าที่ดูดซับน้ำ ก๊าซธรรมชาติที่แห้งจากหน่วยนี้จะผ่านเข้าไปใน turbo-expander เพื่อลดอุณหภูมิจาก 250OK เป็น 170OK และลดความดันลง จาก 43 บาร์ เป็น 16 บาร์ก่อนแล้วจึงเข้าสู่หอแยกมีเทน (de-methanizer) มีเทนจะถูกกลั่นแยกออกไป และส่วนที่เหลือคือส่วนผสมของก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนตั้งแต่ 2 อะตอมขึ้นไป (ethane plus stream) ซึ่งอยู่ในสถานะของเหลวและจะออกทางส่วนล่างของหอ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวหอดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่หอแยกอีเทน (de-ethanizer) และหอแยกโปรเปน (de-propanizer) เพื่อแยกอีเทนและโปรเปนออกตามลำดับต่อไปในหอแยกโปรเปนนี้ โปรเปนจะถูกแยกออกทางด้านบนของหอ ส่วนแอพีจีซึ่งเป็นส่วนผสมของโปรเปนและบิวเทนจะถูกแยกออกมาจากส่วนกลางของหอ และส่วนผลิตภัณฑ์ที่ออกจากหอทางด้านล่างคือ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ (natural gasoline)

ช่องทางการจัดจำหน่าย

WP Energy จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก๊าซให้แก่กลุ่มลูกค้า 5 ประเภท ได้แก่ กลุ่มโรงบรรจุ กลุ่มสถานีบริการ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มพาณิชยกรรมและกลุ่มร้านค้าแก๊ส โดยแบ่งขนาดในการจำหน่าย ออกเป็น 2 ขนาด คือ

1) ถังบรรจุก๊าซขนาดใหญ่ (Bulk) คือ การบรรจุก๊าซ LPG ใส่ในถังบรรจุขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนรถบรรทุกก๊าซ และจากนั้นจะถ่ายก๊าซดังกล่าว ลงใส่ถังบรรจุขนาดใหญ่ (Bulk) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของคู่ค้า อันได้แก่ สถานีบริการ โรงบรรจุ และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปริมาณมาก

2) ถังบรรจุก๊าซขนาดย่อม (Cylinder) คือ การบรรจุก๊าซ LPG ใส่ในถังบรรจุขนาดย่อม ซึ่งให้บริการทั้งหมด 4 ขนาด ได้แก่ 4 ก.ก. 13.5 ก.ก. 15 ก.ก. และ 48 ก.ก. จึงทำให้ WP Energy สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของกลุ่มคู่ค้า แต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม

รวม 6,097,691 ถัง

ขั้นตอนการบรรจุก๊าซ LPG เพื่อจัดจำหน่ายของ WP Energy

WP Energy รับก๊าซ LPG จากผู้ผลิตโดยผ่านการขนส่ง 2 ช่องทาง ได้แก่ ทางเรือ และทางรถ

ทางเรือ

WP Energy มีท่าเรือรองรับการขนถ่ายก๊าซ LPG อย่างครบวงจร และมีความปลอดภัยสูงในระดับสากล ดำเนินงานโดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ

24 Tankers
7 Tons
24 Tankers
7 Tons
18 Tankers
6 Tons

เมื่อได้รับการขนถ่ายก๊าซ LPG ผ่านท่อขนส่งทางเรือ จะนำก๊าซไปเก็บไว้ที่คลังเก็บก๊าซ โดยใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บก๊าซที่ทันสมัย ซึ่งสามารถรองรับการสำรองก๊าซ LPG ได้อย่างเพียงพอ เพื่อเตรียมนำก๊าซออกจัดจำหน่ายต่อไป

ทางรถ

การขนส่งทางรถบรรทุกก๊าซ ดำเนินงานโดย บริษัทในเครืออย่าง บริษัท อีเกิ้ล อินเตอร์ทรานส์ จำกัด ซึ่งดำเนินงานด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านการขนส่งในระดับสากล

รถบรรทุกหัวลาก
48 Vehicles
15 Tons
รถบรรทุกหัวลาก
46 Vehicles
15 Tons
รถบรรทุกหัวลาก
66 Vehicles
8 Tons

บริษัท อีเกิ้ล อินเตอร์ทรานส์ จำกัด มีระบบขนส่งที่ทันสมัยได้มาตรฐาน โดยนำระบบ GPS และระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ระดับสูงมาใช้ตรวจสอบตลอดเส้นทางการขนส่ง ทำให้การรับและนำส่งก๊าซไปยังคู่ค้า ตรงต่อเวลาและมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด